ลงทุนในหุ้น 3กลุ่ม
1.คอมโมดิตี้
2.หุ้นเติบโต หรือ Growth stock
3.Turn around stock หรือหุ้นเทินอะราวด์
ตามหลัก กำไรทบต้น หรือ compounding ถ้าคุณทำผลตอบแทนได้ครั้งละ 30เปอเซ็นต์ ทบต้น3ครั้ง พอรท์จะขยายตัวได้ 1เท่าของเงินต้น
ดังนั้นถ้าใน1ปี คุณเลือกหุ้นและทำกำไรได้ 30เปอเซ็นต์ 3ตัวต่อปี คุณจะมีความมั่งคั่งแบบทบต้น กล่าวคือ ปีแรกจะได้ 1เด้ง และปีต่อๆมาเงินจะเพิ่มแบบก้าวกระโดด
วิธีการมองหาหุ้น ในปัจจุบัน แบ่งเป็น
1.ชาวสวน หรือ contarian มักลงทุนในกิจการที่ราคาลดลงมามาก บางครั้งแนวทางนี้ก้นำไปใช้ในทางที่ผิด เช่น
หุ้นที่พื้นฐานเปลี่ยน หุ้นที่ตกเทรนด์ ตะวันตกดิน ถ้าซื้อแบบชาวสวน ติดดอยหมด
ชาวสวนจะใช้ประโยชนได้ใน หุ้นที่กระทบครั้งเดียว หรือ หุ้นที่กิจการดีแต่มีผลกระทบที่เกิดครั้งเดียว one time
2.ชาวไล่ หรือ momentum trader มักเห็นราคาตัวไหนขึ้นแรงๆ แล้วกระโดดเกาะรถขึ้นไป โดยไม่ดูปัจจุยพื้นฐาน หรือกราฟ ชาวไล่จะพลาดตรง ชาวไล่ไม่สนว่า ราคาขึ้นมาจากไหน ถ้าราคาวิ่งตามทันที จึงมีโอกาศติดดอยมาก
วิธีที่ลงทุนได้ผลสำหรับชาวไล่ คือ ต้องลงทุนในช่วงราคากำลังขึ้นแรกๆ ตามหลักโมเมนตัม แล้ว ราคาที่ขึ้นไปย่อมสะท้อนผลประกอบการในอนาคต
3.ชาวประมง หรือ value investor ชาวประมงจะเน้นมองที่พื้นฐานกิจการ มองอนาคตของกิจการ ก้เหมือนกับชาวประมงที่ ต้องออกเรือไปพร้อมเครื่องโซน่าร์ ดูว่าตรงไหนมีปลา แล้วก้จะได้ปลา มีความเชี่ยวชาญในการมองปลาว่า ปลาเล็กหรือปลาใหญ่ ตรงไหนน้ำลึก ตรงไหนน้ำตื้นความเชี่ยวชาญในการมองว่า มีพายุหรือเปล่า ควรเข้าฝั่งตอนไหนชาวประมงที่เชี่ยวชาญมาก จะต้องเป็นไต๋เรือ เกิน10ปีขึ้นไปสั่งสมประสบกาม จากหลายๆที่ เคยผ่านทั้งการโจมตีจากพายุ และโจรสลัดมาแล้วผ่านวิกฤติร้ายๆมาได้ อย่างน้อย 3ครั้งขึ้นไป จึงจะเป็นไต๋เรือที่เก่ง
4.โจรสลัด หรือ speculator จะเป็นกลุ่มนักลงทุนสายเทคนิค ที่มองการเข้าออกด้วยกราฟล้วนๆไม่มีปัจจัยพื้นฐาน โจรสลัดจะมองหาเหยื่อที่น่าจะสร้างกำไรให้ได้ หลังจากนั้นก้จะปล้นหุ้นแล้ว เกาะตามเจ้าของไป พอเจ้าของหมดมือ โจรสลัดก้ทิ้งหุ้นตามเจ้าของทันที
วิธีการนี้เป็นอีกวิธี ที่ได้รับความสำเร็จ เพราะ โจรสลัดจะไม่รอตี4 แบบชาวประมง แต่จะเกาะไปตอน6โมงเช้า รถออกพอดี แล้วนั่งรถไปกับชาวประมง ประหนึ่ง พวกเดียวกัน ไปไหนไปกัน ฉันรักเธอ ถ้าน้ำแตกฉันก้แยกทาง
ปัญญหาคือจะรู้ได้ไง หุ้นตัวไหนมันจะ Turn around
เราก้ต้องมองให้ออกก่อนว่า เป็นหุ้นประเภทไหนครับ เหมือนเอากระเทยมานั่งกับผู้หญิง เราจะดูยังไงว่าคนไหน ญแท้ คนไหนญเทียมเป็นคุณจะทำยังไงครับ จะแยกยังไงถึงจะรู้ว่าคนไหน ญแท้ ญเทียม แก้ผ้าไหม หรือดูบัตรประชาชน
ตามหลักของปีเตอร์ ลินซ์ ถ้าคุณมีหุ้นตัวนึงแล้วคุณบอกไม่ได้ว่าเป็นหุ้นประเภทไหน แปลว่า คุณยังไม่สามารถแยกออกระหว่า งกระเทยกับผู้หญิง ดอกไม้กับวัชพืช หุ้นโตช้าหรือหุ้นโตเร็ว หุ้นเทินอะราวด์ หุ้นคอมโมดิตี้
เหมือนคุณถามว่า อยากซ่อมรถเป็น แต่คุณไม่รู้ว่า รถประกอบด้วยอะไรบ้าง เสียตรงไหนบ้าง แต่ละอันซ่อมยังไง ถ้าแบตหมด ก้เปลี่ยนแบต ถ้าสายพานขาดก้เปลี่ยนสายพาน ถ้ายางแตกก้ต้องปะยาง
รู้ได้ไงว่าเทินอะราวด์ งั้นมาเริ่มกันเลย
เทิน คือ เลี้ยว //////อะราวด์ แปลว่า รอบๆ
เทินอะราวด์คือ หุ้นที่เคลื่อนไหวเป็นวงกลม นิยามนี้ถูกต้องแล้ว ตามวัฎจักรของกิจการเริ่มจาก
1.เริ่มก่อสร้าง
2.ดีและเติบโต
3.หยุดเติบโต
4.เสื่อมถอย เหมือน วัฎจักรของมนุษย์
ยกตัวอย่าง ผมขายลูกชิ้น แล้วเจ๊ง แล้วเปลี่ยนมาขาย ก๋วยเตี๋ยวแล้ว รวยขึ้น มานี่ก้เทินอะราวด์
คารมารท์ขายเครื่องใช้ไฟฟ้าไดสตาร์ไม่รุ่ง มาขายเครื่องสำอางรุ่งก้เทินอะราวด์
เอม เปลี่ยนธุรกิจมาทำ เครื่องมือแพทย์นี่ก้เทินอะราวด์
แต่กิจการประเภท เทินอะราวด์นั้น มีแค่ ร้อยละ10 ที่กลับมาได้ แบบที่ วอเรนท์บัฟเฟตได้พูดไว้เกี่ยวกับหุ้นเทินอะราวด์ว่า turnaround seldom turn คือ ไอ้คนทำกิจการเจ๊ง เด๋วเปิดกิจการใหม่มันก้เจ๊งอีก turn around pattern
1.V shape กิจการแย่ แต่กลับมาได้รวดเร็ว เจ๊งชั่วคราวไม่ค้างคืน
2.U shape กิจการแย่ กว่าจะฟื้นก้นานหน่อยแต่ฟื้นจริง
3.L shape กิจการแย่ แล้วโอกาศพื้นยังไม่เห็น
4.W shape ดีๆแย่ๆ ปะปนกันไป เหมือนจะไม่ฟื้นแต่ก้ฟื้น เหมือนฟื้นแต่ก้ไม่ฟื้นการเลือกหุ้นที่มองว่าจะเทินอะราวด์มองจากอะไร
1.กิจการต้องขายธุรกิจเก่าออกไปก่อน เพราะธุรกิจเดิมขาดทุนทำไปก้ไม่รุ่ง
2.ล้างขาดทุนสะสม เสียก่อน โดยลดพาร์ เพิ่มทุน แล้วเอาทุนใหม่ไปลงทุนตามข้อ3
3.ลงทุนธุรกิจใหม่ ถ้าเห็นแล้วว่า ธุรกิจนั้นทำกำไรได้แน่นอน รายได้มั่นคง นั่นคือ เทินอะราวด์เต่าหมุน
โดยจะมี แฟคเตอร์อ้างอิงดังนี้
ธุรกิจที่ขายธุรกิจเก่าออกไป ผู้บริหารซื้อหุ้นครั้งละมากๆ มากกว่าที่ถืออยู่เดิม มีการล้างขาดทุนสะสม และเปลี่ยนแผนธุรกิจใหม่คือ หุ้นเทินอะราวด์ครับ แยกให้ออกครับ ปีเตอร์ลินซ์ บอกแล้ว คุณจะมาลงทุนในหุ้นคุณต้องแยกให้ออก กระเทยกับญแท้ ดอกไม้กับวัชพืช
1.หุ้นเติบโตช้า โตหลักเดียว
2.หุ้นเติบโตเร็ว โตสองหลัก
3.หุ้นเทินอะราวด์ เปลี่ยนธุรกิจแล้วกลับมากำไร
4.หุ้นคอมโมดิตี้ คือ หุ้นโภคภํณฑ์ แบ่งเป็น
hard commodity อะไรแข็งๆ ใช่หมด ทองคำเงิน ทองแดง สังกะสี เหล็ก
soft commodity อะไรไม่แข็ง ใช่หมด ข้าว อ้อย น้ำตาล มันสำประหลัง
cyclical อะไรมีรอบใช่หมด เรือ ฟิลม์
economic stock cycle เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ ถ้าดีมันมาแน่ กลุ่มยานยนต์ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์
5.หุ้นแข็งแกร่ง บริษัทที่แข็งแกร่ง มีมูลค่ากิจการมากกว่า1000ล้าน ขายสินค้าที่ต้องกินใช้ เช่นค้าปลีก
6.หุ้นมหาสมบัติ คือ หุ้นที่กิจการมี ทรัพย์เจ้าคุณปู่มาก ทรัพย์สินมากกว่าราคาหุ้น เช่น MBK CSR CPI
ต่อนะครับ หุ้นเติบโต
หุ้นเติบโต คืออะไร หุ้นก้คือหุ้น เติบโตก้แปลว่า โต การโตก้เหมือนคนเรา ตั้งแต่เด็กแขนขาก้เล็กตัวก้เล็ก นมก้เล็ก พอโตขึ้นเป็นวัยรุ่นนมก้เริ่มแตก ตัวก้เริ่มโต พอเริ่มเป็นวัยทำงานก้โตเต็มวัย พอแก่ก้เริ่มหยุดโต แล้วก้ตาย สาธุ
หุ้นเติบโต คืออะไร หุ้นก้คือหุ้น เติบโตก้แปลว่า โต การโตก้เหมือนคนเรา ตั้งแต่เด็กแขนขาก้เล็กตัวก้เล็ก นมก้เล็ก พอโตขึ้นเป็นวัยรุ่นนมก้เริ่มแตก ตัวก้เริ่มโต พอเริ่มเป็นวัยทำงานก้โตเต็มวัย พอแก่ก้เริ่มหยุดโต แล้วก้ตาย สาธุ
แบ่งออกเป็น 3ประเภท
1.หุ้นโตช้า slow growth อัตราโตแค่หลักเดียว โตเรื่อยๆ ไม่รีบ โตเต่าคลาน
2.หุ้นโตเร็ว fast growth อัตราการเติบโต2หลัก โตเร็วเหมือน เร่งยา ส่วนมากเป็นอุตสาหกรรมที่เพิ่งเกิดใหม่ๆและประสบวามสำเร็จ เช่นเฟตบุ๊ค
3.หุ้นไม่โต หรือ zero growth กิจการมีแค่นั้น ไม่คิดขยายเพิ่ม รายได้เสมอตัวตลอด ลูกค้ากลุ่มเดิมๆ มักอยู่ในอุตสาหกรรมที่เป็นแม่วัว cash cow
1.หุ้นโตช้า slow growth อัตราโตแค่หลักเดียว โตเรื่อยๆ ไม่รีบ โตเต่าคลาน
2.หุ้นโตเร็ว fast growth อัตราการเติบโต2หลัก โตเร็วเหมือน เร่งยา ส่วนมากเป็นอุตสาหกรรมที่เพิ่งเกิดใหม่ๆและประสบวามสำเร็จ เช่นเฟตบุ๊ค
3.หุ้นไม่โต หรือ zero growth กิจการมีแค่นั้น ไม่คิดขยายเพิ่ม รายได้เสมอตัวตลอด ลูกค้ากลุ่มเดิมๆ มักอยู่ในอุตสาหกรรมที่เป็นแม่วัว cash cow
ดูยังไงว่ามันโต โต มีแบบไหนบ้าง
โตไม่ต้องไปคิดมาก ท่องไว้ รายได้มากขึ้น กำไรมากขึ้น ปันผลมากขึ้น แสดงว่าโต ถ้าโตต่ำกว่า2หลัก ถือว่าโตช้า ถ้าโต2หลักแปลว่าโตเร็ว
ดูว่ากิจการนั้น ทำอะไร แล้วยังเป็นที่ต้องการอีกหรือไม่
ผมจะขออนุญาติลงรูปเอาไว้ ให้พิจารณา ในการหาหุ้นโกรท หรือหุ้นเติบโต มักเป็นอุตสาหกรรมที่เป็นดาว หรือสตาร์
คือ ส่วนแบ่งการตลาดจะต้องมาก และการเติบโตจะมาก ถือว่าเป็นหุ้นโกรท หรือ ดาวเด่น
ถ้าส่วนแบ่งการตลาดมาก แต่อุตสาหกรรมไม่โต ก้จะเป็นหุ้นที่ รายได้ค่อนข้างแน่นอน อย่างธุรกิจ สนามกลอฟ์ ธุรกิจตะวันตกดิน
จะเป็นพวกปันผลเด่นหรือ แคชคาว หุ้นห่านทองคำ หุ้นวัวที่ให้น้ำนม

โตไม่ต้องไปคิดมาก ท่องไว้ รายได้มากขึ้น กำไรมากขึ้น ปันผลมากขึ้น แสดงว่าโต ถ้าโตต่ำกว่า2หลัก ถือว่าโตช้า ถ้าโต2หลักแปลว่าโตเร็ว
ดูว่ากิจการนั้น ทำอะไร แล้วยังเป็นที่ต้องการอีกหรือไม่
ผมจะขออนุญาติลงรูปเอาไว้ ให้พิจารณา ในการหาหุ้นโกรท หรือหุ้นเติบโต มักเป็นอุตสาหกรรมที่เป็นดาว หรือสตาร์
คือ ส่วนแบ่งการตลาดจะต้องมาก และการเติบโตจะมาก ถือว่าเป็นหุ้นโกรท หรือ ดาวเด่น
ถ้าส่วนแบ่งการตลาดมาก แต่อุตสาหกรรมไม่โต ก้จะเป็นหุ้นที่ รายได้ค่อนข้างแน่นอน อย่างธุรกิจ สนามกลอฟ์ ธุรกิจตะวันตกดิน
จะเป็นพวกปันผลเด่นหรือ แคชคาว หุ้นห่านทองคำ หุ้นวัวที่ให้น้ำนม

-โต โตจากอะไร แล้วมองไงว่าโตยั่งยืน
การเติบโต ควรเป็นการเติบโตแบบสูง คือ รายได้จากการดำเนินงานโตขึ้น ทุกปี ไม่ใช่กำไรพิเศษหรือกำไรอื่นๆ ถ้าเป็นการโตแบบ
มีกำไรพิเศษเช่น ขายบริษัท หรือ ได้เงินชดเชย แบบนี้ ถือว่า โตแบบอ้วน คือ พอไม่มีเงินชดเชยหรือรายได้นั้นแล้ว บริษัทกำไรลดลง
การที่จะโตยั่งยืนได้ คือ การที่ สินค้าและบริการนั้น ต้องใช้ต่อไปมากขึ้นๆ โดยใช้ซ้ำๆ จึงจะมีโอกาศกลับมาใช้ใหม่ได้
เช่น ซีพีออล 7/11 ตอนสมัย10ปีก่อน มีกี่สาขา พอตอนนี้กี่สาขา สาขาที่เปิดมากขึ้น ทำให้รายได้มากขึ้น กำไรมากขึ้น มีอำนาจต่อรอง
มากขึ้น
-หาหุ้นยังไง ให้เจอหุ้นโกรท
แนะนำว่า ถ้าเป็นสินค้าและบริการ คุณต้องออกไปสัมผัส เมื่อคุณเห็นอะไรขายดีมุงกันมากๆ คุณไปดูเลยกิจการชื่ออะไร มีกี่สาขาแล้ว
แล้วคู่แข่งเค้ามีมากหรือน้อย ราคาสินค้า คุณภาพสินค้าสมเหตุผลไหม ราคาหุ้นในตลาดเป็นยังไง ถูกหรือแพง
การขยายสาขาในอนาคต การออกต่างประเทศ การเพิ่มไลน์สินค้า หรือ ความซื่อสัตย์ต่อสินค้าเป็นยังไง สินค้ามีอะไรใหม่ๆตลอดไหม
การบริการเป็นยังไง แล้ว ภาพลักษณ์ในสายตาผู้ใช้เป็นยังไง
ผมว่าหุ้นโกรทเป็นหุ้นที่ดูง่าย มันมากับกลุ่มเทรนด์อุตสาหกรรม ตลอด และมักจะตามเพื่อนบ้านที่เจริญแล้ว เช่น อุตสาหกรรมค้าปลีก
อุตสาหกรรมโรงพยาบาล ที่เข้ากับเทรนด์ รายได้มากขึ้นและการเจริญขึ้นของประเทศและการมีผู้สูงอายุมากขึ้น
หรือไม่ก้มักเป็นหุ้นที่อยู่รอบๆตัวเรา ที่เรากิน เราใช้สินค้าครับ
เมื่อยละ พรุ่งนี้เด๋วมาต่อ หุ้นคอมโม หุ้นโกรทผมไม่ถนัดมาก ถ้าอยากเรียนรู้หุ้นโกรท แนะนำติดต่อ หาความรู้จากคุณ คเชนทร์ครับ
พี่ invisible hand เพราะเนื้อหาแน่นกว่าผมมาก ยังต้องเรียนอีกมากทั้ง FF model ///และโมเดลธุกริจอื่นๆ
การเติบโต ควรเป็นการเติบโตแบบสูง คือ รายได้จากการดำเนินงานโตขึ้น ทุกปี ไม่ใช่กำไรพิเศษหรือกำไรอื่นๆ ถ้าเป็นการโตแบบ
มีกำไรพิเศษเช่น ขายบริษัท หรือ ได้เงินชดเชย แบบนี้ ถือว่า โตแบบอ้วน คือ พอไม่มีเงินชดเชยหรือรายได้นั้นแล้ว บริษัทกำไรลดลง
การที่จะโตยั่งยืนได้ คือ การที่ สินค้าและบริการนั้น ต้องใช้ต่อไปมากขึ้นๆ โดยใช้ซ้ำๆ จึงจะมีโอกาศกลับมาใช้ใหม่ได้
เช่น ซีพีออล 7/11 ตอนสมัย10ปีก่อน มีกี่สาขา พอตอนนี้กี่สาขา สาขาที่เปิดมากขึ้น ทำให้รายได้มากขึ้น กำไรมากขึ้น มีอำนาจต่อรอง
มากขึ้น
-หาหุ้นยังไง ให้เจอหุ้นโกรท
แนะนำว่า ถ้าเป็นสินค้าและบริการ คุณต้องออกไปสัมผัส เมื่อคุณเห็นอะไรขายดีมุงกันมากๆ คุณไปดูเลยกิจการชื่ออะไร มีกี่สาขาแล้ว
แล้วคู่แข่งเค้ามีมากหรือน้อย ราคาสินค้า คุณภาพสินค้าสมเหตุผลไหม ราคาหุ้นในตลาดเป็นยังไง ถูกหรือแพง
การขยายสาขาในอนาคต การออกต่างประเทศ การเพิ่มไลน์สินค้า หรือ ความซื่อสัตย์ต่อสินค้าเป็นยังไง สินค้ามีอะไรใหม่ๆตลอดไหม
การบริการเป็นยังไง แล้ว ภาพลักษณ์ในสายตาผู้ใช้เป็นยังไง
ผมว่าหุ้นโกรทเป็นหุ้นที่ดูง่าย มันมากับกลุ่มเทรนด์อุตสาหกรรม ตลอด และมักจะตามเพื่อนบ้านที่เจริญแล้ว เช่น อุตสาหกรรมค้าปลีก
อุตสาหกรรมโรงพยาบาล ที่เข้ากับเทรนด์ รายได้มากขึ้นและการเจริญขึ้นของประเทศและการมีผู้สูงอายุมากขึ้น
หรือไม่ก้มักเป็นหุ้นที่อยู่รอบๆตัวเรา ที่เรากิน เราใช้สินค้าครับ
เมื่อยละ พรุ่งนี้เด๋วมาต่อ หุ้นคอมโม หุ้นโกรทผมไม่ถนัดมาก ถ้าอยากเรียนรู้หุ้นโกรท แนะนำติดต่อ หาความรู้จากคุณ คเชนทร์ครับ
พี่ invisible hand เพราะเนื้อหาแน่นกว่าผมมาก ยังต้องเรียนอีกมากทั้ง FF model ///และโมเดลธุกริจอื่นๆ