วันจันทร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2560

Forex คืออะไร

Forex คืออะไร












Forex ย่อมาจาก Foreign Exchange Market หมายถึง ตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ อาจจะเรียกว่า  FX  ก็ได้เช่นเดียวกัน การซื้อขายเงินตราต่างประเทศ กำไรหรือขาดทุนจะเกิดจากส่วนต่างของราคาตอนที่ซื้อเทียบกับตอนที่ขาย ตามการขึ้นลงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินคู่เงินนั้นๆ ถ้าซื้อถูกและขายแพงก็ได้กำไร กลับกันถ้าซื้อแพงและมาขายถูกก็ขาดทุน การลงทุนเริ่มต้นได้ด้วยเงินเพียง 5$ (บัญชีเซนต์หรือไมโคร) โดยใช้เลเวอเรจเปลี่ยนเงินลงทุนให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น เพื่อเทรดในสัญญาที่มีขนาดใหญ่ได้ แต่ก็ตามมาด้วยความเสี่ยงที่สูงขึ้น การลงทุนในตลาดนี้สามารถเก็งกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง จึงเป็นเหตุผลให้นักลงทุนรายย่อยหันมาลงทุนในตลาดนี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ การซื้อขายสกุลเงินนั้นจะทำเป็นคู่ๆ ผ่านระบบออนไลน์ในตลาดซื้อขายเงินตราต่างประเทศ คุณสามารถเปิดพอร์ตลงทุนผ่านทางโบรกเกอร์ได้ด้วยตัวคุณเอง เพียงไม่กี่ขั้นตอน.

ตลาด Forex เปิดทำการตอนไหน  



ตลาด Forex นั้นจึงถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดสำหรับการลงทุนระหว่างประเทศและการเทรดค่าเงินออนไลน์ เป็นตลาดแบบ OTC ที่ไม่ต้องมีสถานที่จริงสำหรับการซื้อและขาย เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง วันจันทร์-วันศุกร์ โดยจะเปิดตลาดในเช้าวันจันทร์เวลา 04.00 น. และปิดตลาดในเช้าวันเสาร์ เวลา 04.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ซึ่งจะขยับเวลาเปิดช้าลงและปิดช้าลง 1 ชั่วโมงในช่วง Daylight Saving Time (DST) ในช่วงที่ตลาดปิด เสาร์และอาทิตย์ จะไม่สามารถสั่งซื้อขายได้
















ตลาด Forex ใหญ่แค่ไหน ?

 ตลาด Forex มีโครงสร้างแบบกระจายจากศูนย์กลาง นักลงทุนสามารถเข้าถึงตลาดนี้ได้จากทั่วโลกผ่านทางอินเตอร์เน็ต ทำให้ตลาดซื้อขายเงินตราต่างประเทศมีสภาพคล่องสูงที่สุดในโลก ในแต่ละวันมีปริมาณการซื้อขายโดยเฉลี่ยมากกว่า 5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (5 Trillion) เรียกได้ว่าทุกตลาดหุ้นมีขนาดเล็กไปทันทีเมื่อนำมาเทียบกับตลาด Forex แห่งนี้
















โครงสร้างของตลาด Forex 

ตลาดซื้อขายเงินตราต่างประเทศจะไม่เหมือนกับตลาดหุ้น ตลาดซื้อขายเงินตราต่างประเทศจะถูกแบ่งออกเป็นระดับต่าง ๆ โดยมีตลาดระหว่างธนาคาร (Interbank Market) เป็นระดับด้านบนสุด รวมไปถึงธนาคารพาณิชย์และธนาคารกลางขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เช่น HSBC , JP Morgan , Barclays Investment Bank , Citi Bank , Deutsche Bank , UBS AG , Goldman Sachs ซึ่งตลาดระหว่างธนาคารนี้จะเป็นแบบกระจายจากศูนย์กลางเหมือนกันกับตลาดซื้อขายเงินตราระหว่างประเทศ โดยจะถูกห้อมล้อมด้วยธนาคารพาณิชย์และวาณิชธนกิจขนาดใหญ่ ซึ่งการซื้อขายเกือบ 40% จะมาจากธนาคารระดับบนสุด (top-tier) ระดับต่อมาจะประกอบด้วยธนาคารขนาดกลางและขนาดเล็ก  เฮดจ์ฟันด์ กองทุนต่างๆ  บริษัทพาณิชย์ ที่นำเข้าและส่งออกสินค้าระหว่างประเทศ ECNs (Electronic Communication Networks)  บริษัทโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์รายย่อยและนักเทรดรายย่อยทั่วไป






โครงสร้างของตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ (Forex Market Structure)


ประวัติของตลาด Forex 

การซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศได้เริ่มต้นขึ้นในปี 1880 เริ่มต้นใช้ระบบการเงินที่อ้างอิงจากทองคำ ซึ่งระบบนี้ถูกนำมาใช้เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากระบบการแลกเปลี่ยนแบบเดิม คุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมที่สุดของระบบนี้คือการมีอัตราแลกเปลี่ยนที่คงที่ ระหว่างสกุลเงินของประเทศหนึ่งกับอีกประเทศหนึ่งไม่ว่าจะใช้รูปแบบวิธีการแลกเปลี่ยนแบบใดก็ตาม (ธนบัตรหรือเหรียญ) ระบบนี้ไม่เพียงแค่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับการแลกเปลี่ยนระหว่างสกุลเงินสองชนิดเท่านั้น ทั้งยังช่วยควบคุมค่าเงินและทำให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่ต่ำด้วย ในศตวรรษที่ 20 ได้มีการเติบโตของธนาคารต่างชาติอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในอังกฤษมีบริษัทโบรกเกอร์ซื้อขายเงินตราต่างประเทศ 40 กว่าเฉพาะในลอนดอนในปี 1922 และการซื้อขายเงินตราต่างประเทศประมาณครึ่งหนึ่งของทั้งหมดในโลกเป็นการซื้อขายเงินปอนด์ ในช่วงเวลานั้น นิวยอร์ค ปารีส และ เบอร์ลิน ได้เป็นศูนย์กลางการเทรดที่มีปริมาณสูงที่สุด ภายหลังจากช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 Bretton Woods Accord ได้สร้างกฎเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางด้านการเงินและการจำกัดความแปรปรวนของค่าเงินให้ไม่เกิน 1% ของมูลค่าพาร์ของสกุลเงิน อย่างไรก็ตามหลังจากที่ข้อตกลงของ Bretton Woods ได้ล่มสลายลง ระบบที่ใช้อัตราแลกเปลี่ยนแบบคงที่ได้ค่อย ๆ เปลี่ยนมาใช้ระบบแบบลอยตัว (free-floating) ในช่วงปลายของยุค 70’s การซื้อขายเงินตราต่างประเทศในระดับประเทศที่มีการควบคุมอย่างเข้มงวดได้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ และเปลี่ยนมาเป็นตลาดที่มีค่าเงินแบบลอยตัว

ใครบ้างที่ซื้อขายในตลาดฟอเร็กซ์ (forex Market ) 

ในตลาด ฟอเร็กซ์ (Forex) มีผู้ค้าที่แตกต่างกันหลายรูปแบบ ทั้งการซื้อขายแลกเปลี่ยนระหว่างธนาคาร การซื้อขายเงินตราเพื่อชำระค่าสินค้าจากการนำเข้าหรือส่งออก การซื้อขายเพื่อประกันความเสี่ยง หรือการเก็งกำไร ผู้ค้าต่างๆ มีดังนี้


  1. ธนาคารกลางของรัฐบาล
  2.  ธนาคารพาณิชย์ 
  3. ธนาคารเพื่อการลงทุน 
  4. โบรกเกอร์ 
  5. กองทุน ต่างๆ
  6. บริษัทประกันภัย
  7. องค์กรระหว่างประเทศ 
  8. บริษัทพาณิชย์ นำเข้า ส่งออก
  9. นักเก็งกำไรรายใหญ่
  10. บุคคลทั่วไป


ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่ออัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินมีอะไรบ้าง?

 ตลาด Forex นั้นก็ไม่แตกต่างจากตลาดอื่น การเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน เกิดจากอุปสงค์และอุปทานเหมือนกัน


  • ถ้ามีผู้ซื้อมากกว่าผู้ขาย ราคาจะสูงขึ้น
  •  ถ้ามีผู้ขายมากกว่าผู้ซื้อ ราคาจะต่ำลง


ปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน อาทิ เช่น


  •  ผลการดำเนินการทางเศรษฐกิจของประเทศ 
  • นโยบายของธนาคารกลาง 
  • การปรับอัตราดอกเบี้ย
  • งบการค้าระหว่างประเทศ การนำเข้าและการส่งออก
  • ปัจจัยทางการเมือง เช่น การเลือกตั้ง การเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเมือง
  • ความเชื่อมั่นของตลาด ความคาดหวังและข่าวลือ 
  • การก่อการร้าย , ภัยพิบัติทางธรรมชาติ

สามารถทดลองเปิดบัญชี Demo โบรคเกอร์ต่าง ๆ ได้ฟรี